1.ความหมายของเว็บเพจตรงกับข้อใด
ก.เอกสารที่ใช้ในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร
ข.กลุ่มของหน้าเว็บ หรือเว็บหลายๆหน้ารวมกัน
ค.เป็นช่องทางเข้าเว็บเพจทั้งหมดภายในเว็บไซต์
ง.เป็นที่เก็บเว็บเพจเมื่อต้องการเปิดดูเว็บเพจ
2.ประโยชน์ของเว็บเพจคือข้อใด
ก.ประชาสัมพันธ์บริษัทและองค์กร
ข.เอกสารที่ใช้ในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร
ค.การแสดงผลของเว็บเพจ
ง.เป็นที่เก็บเว็บเพจ
3. .com เป็นตัวย่อขององค์กรใด
ก.บริษัทหรือองค์กรพาณิชย์
ข.สถาบันการศึกษา
ค.องค์กรรัฐบาล
ง.บริษัทหรือองค์กรทางธุรกิจ
4. .gov เป็นตัวย่อขององค์กรใด
ก.องค์กรรัฐบาล
ข.บริษัทหรือองค์กรพาณิชย์
ค.สถาบันการศึกษา
ง.บริษัทหรือองค์กรทางธุรกิจ
5. บริษัทหรือองค์กรทางธุรกิจใช้ตัวย่อใด
ก. .biz
ข. .imfo
ค. .org
ง. .net
6. องค์กรที่ทำหน้าที่เป็นเกตเวย์ หรือจุดเชื่อมต่อเครือข่าย ใช้ตัวย่อใด
ก..net
ข..biz
ค..info
ง..org
7. Domain Name มีกี่ระดับ
ก. 3 ระดับ
ข. 5 ระดับ
ค. 7 ระดับ
ง. 9 ระดับ
8.การออกแบบโครงสร้างมีกี่รูปแบบ
ก. 4 รูปแบบ
ข. 5 รูปแบบ
ค. 6 รูปแบบ
ง. 8 รูปแบบ
9.โดเมนเนม 3 ระดับ จะมีรูปแบบ เช่นไร
ก.ส่วนที่ 2 หลังเครื่องหมายจุดใช้ระบุประเภทขององค์กร และคำย่อส่วนที่ 3 หลังเครื่องหมายจุดใช้ระบุประเทศที่ตั้งขององค์กรนั้น
ข.คำย่อของประเภทองค์กร ซึ่งคำย่อของประเภทองค์กรที่จะพบบ่อย
ค.ส่วนที่ 2 หลังเครื่องหมายจุดใช้ระบุประเภทขององค์กร
ง.ส่วนที่ 3 หลังเครื่องหมายจุดใช้ระบุประเทศที่ตั้งขององค์กร
10.ออสเตรเลียใช้ตัวย่ออะไร
ก..au
ข..cn
ค..th
ง..jp
เฉลย
1.ก 2.ก 3.ก 4.ก 5.ก 6.ก 7.ก 8.ก 9.ก 10.ก
บทที่1 เริ่มต้นกับการสร้างเว็บเพจ
เว็บเพจคืออะไร
เว็บเพจ คือ เอกสารที่ใช้ในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร ซึ่งประกอบด้วยทางเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เว็บเพจจะถูกนำมาใช้ประโยชน์ในการ
ประชาสัมพันธ์และนำเสนอข้อมูลความรู้ต่างๆ จึงส่งผลทำห้แต่ละเว็บเพจมีความแตกต่างกันไปตามวัตถุประสงค์ของการนำไปใช้งานนั้นเอง
ประโยชน์ของเว็บเพจ
เนื่องจากเว็ลเพจสามารถเผยแพร่ข้อมูลได้ด้วยข้อความ ภาพ เสียง และภาพยนตร์ ดังนั้นเราจึงพบเห็นการนำเว็บเพจไปสร้างและพัฒนา เพื่อนำเสนอข้อมูล และข่าวสารในรูปแบบต่างๆ ได้อย่างมากมายดังนี้
-ข่าวและเหตุการณ์ในปัจจุบัน
เว็บข่าวในปัจจุบัน สามารถนำเสนอได้อย่างฉับไว ทันต่อเหตุการณ์ ทำให้เราสามารถรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นจากที่ต่างๆ จากทั่วทุกมุมโลกได้อย่างรวดเร็ว ทั้งภาพนิ่งหรือเป็นภาพวิดีโอที่มีทั้งภาพและเสียง
-ข้อมูลความรู้และห้องสมุด
เว็บเพจเป็นเอกสารที่เชื่อมโยงข้อมูลถึงกันได้ ทำให้มีการรวบรวมความรู้ไว้เป็นคลังขนาดใหญ่ ไม่ยุ่งยากในการดูแลรักษา
-ประชาสัมพันธ์บริษัทและองค์กร
เป็นเว็บเพจที่แนะนำความเป็นมา สินค้า บริการ ที่อยู่ที่ติดต่อ และข่าวประชาสัมพันธ์องค์กร
-ความบันเทิง
เนื่องจากเว็บเพจมีทั้งภาพ เสียง และวิดีโอ จึงทำให้การนำเสนอความบันเทิงไม่ใช่เรื่องยาก ไม่ว่าจะเป็นเว็บวิทยุ ฟังเพลงออนไลน์ เว็บนำเสนอภาพยนตร์ เกม และเว็บเรื่องตลกขำขันต่างๆ เป็นต้น
-การเงิน การลงทุน
เป็นเว็บที่นำเสนอข้อมูลทางการเงินและการลงทุน รวม
ไปถึงบริการสำหรับทำธุรกรรมการเงินออนไลน์ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
-ซื้อ-ขายสินค้า และบริการ
เป็นเว็บที่เหมือนร้านค้าสำหรับขายสินค้า และบริการต่างๆ รวมทั้งยังบริการรับฝากขายสินค้าผ่านร้านเหล่านี้ได้อีกด้วย
-ดาวน์โหลดข้อมูล
เป็นเว็บที่ไห้บริการดาวน์โหลดไฟล์ต่างๆ เช่น ไฟล์โปแกรม ไฟล์ภาพ และไฟล์เพลง เป็นต้น
-บริการติดต่อสื่อสาร
เป็นเว็บที่ให้บริการในการติดต่อสื่อสารถึงกัน เข่น การรับส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) เว็บบอร์ด และเว็บแช็ตสนทนาต่างๆ เป็นต้น
เว็บเพจทำงานได้อย่างไร
สิ่งที่สำคัญก่อนที่เราจะไปสร้างเว็บเพจ นั่นก็คือ การเข้าใจการทำงาน และการแสดงผลของเว็บเพจกัน เพื่อเราจะสามารถวางแผนการสร้างเว็บเพจได้อย่างถูกต้อง
คำศัพท์พื้นฐานเกี่ยวกับการสร้างเว็บเพจ
คือ คำศัพท์ต่างๆ ที่วยทำให้เราเข้าใจและสามารถศึกษาการสร้างเว็บเพจได้อย่างถูกต้อง
ไคลเอนต์-เซิร์ฟเวอร์ (Client-Server)
มีการติดต่อสื่อสารอยู่ 2 แบบ คือ แบบส่งข้อมูลและรับข้อมูล โดยเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ทำการส่งข้อมูล เรียกว่า เครื่องให้บริการ Server และเครื่องคอมพิวเตอร์ที่รับข้อมูล เราจะเรียกว่า เครื่องรับบริการ Client
เครือข่ายใยแมงมุม WWW (world wide web)
WWW หรือเรียกสั้นๆว่า เว็บ การให้บริการในรูปแบบนี้ คือ การเรียกบราวเซอร์ เช่น internet Explorer หรือ Firefox จากเครื่องของเราและระบุ URLเพื่อใช้ในการอ้างที่อยู่ที่เก็บเว็บ
เว็บไซต์ Web site
กลุ่มของหน้าเว็บ หรือเว็บหลายๆหน้ารวมกัน โดยจะมีการกำหนดหน้าเว็บเพจหน้าหนึ่งไว้เป็นหน้าแรก ที่เรียกว่าโฮมเพจ ที่เป็นช่องทางเข้าเว็บเพจทั้งหมดภายในเว็บไซต์นั้น
เว็บบราวเซอร์ และเว็บเซิร์ฟเวอร์ Web Browser &Web Server
เว็บบราวเซอร์ คือ โปรแกรมที่เป็นประตูเข้าสู่โลก World Wide Web เป็นโปรแกรมที่อยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ลูกข่าย ที่มีหน้าที่ในการส่งข้อมูลร้องขอและนำเสนอข้อมูลเว็บ
เว็บเซิร์ฟเวอร์ เป็นที่เก็บเว็บเพจ เมื่อต้องาการเปิดดูเว็บเพจ ต้องใช้บราวเซอร์ดึงข้อมูล
โดเมนเนม Domain Name
การติดต่อกันบนอินเทอร์เน็ตนั้นจะใช้ไอพีแอดเดรสในการทำงาน แต่เป็นตัววเลขที่ยาวทำให้ผู้ใช้จำยาก จึงได้มีการใช้โดเมนเนม หรืออินเทอร์เน็ตแอดเดรสมาใช้
ประเภทของบโดเมนเนม
โดเมนเนมเป็นชื่อของเว็บไซต์ เราเผยแพร่ข้อมูล จะไม่ซ้ำใครในโลก มีการแบ่งโดเมนเนมเป็น 2 ประเภทตามลักษณะ
โดเมนเนม 2 ระดับ จะมีรูปแบบ เช่น success media.com
คือ คำย่อของประเภทองค์กร ซึ่งคำย่อของประเภทองค์กรที่จะพบบ่อย
ตัวย่อ
|
ประเภทองค์กร
|
.com
|
บริษัทหรือองค์กรพาณิชย์ เช่น บริษัท ไอบีเอ็ม มีอินเทอร์เน็ตแอดเดรสเป็น ibm.com
|
.edu
|
สถาบันการศึกษา เช่น มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด มีอินเทอรืเน็ตแอดเดรสเป็น harvard.edu
|
.gov
|
องค์กรรัฐบาล เช่น องค์กรนาว่า มีอินเทอร์เน็ตแอดเดรสเป็น nasa.gov
|
.mil
|
องค์กรทางทหาร เช่น af.mil เป็นอินเทอร์เน็ตแอดเดรสของกองทัพอากาศสหรัฐ
|
.net
|
องค์กรที่ทำหน้าที่เป็นเกตเวย์ หรือจุดเชื่อมต่อเครือข่าย เช่น mci.net
|
.org
|
องค์กรที่ไม่เข้าข่ายประเภทองค์กรทั้งหมดที่ได้กล่าวถึง
|
.biz
|
บริษัทหรือองค์กรทางธุรกิจ
|
.info
|
ใช้ในโอกาสโปรโมทสินค้า เหตุการณ์สำคัญ เช่น บอกข้อมูลส่วนลดของสินค้า
|
โดเมนเนม 3 ระดับ จะมีรูปแบบ เช่น success.co.Th
โดยคำย่อในส่วนที่ 2 หลังเครื่องหมายจถดใช้ระบุประเภทขององค์กร และคำย่อส่วนที่ 3 หลังเครื่องหมายจุดใช้ระบุประเทศที่ตั้งขององค์กรนั้น เช่น
ตัวย่อส่วนที่2
|
ตัวย่อส่วนที่3
|
.co
|
บริษัทหรือองค์กรพาณิชย์
|
.cn
|
จีน
|
.ac
|
สถาบันการศึกษา
|
.th
|
ไทย
|
.go
|
องค์กรรัฐบาล
|
.jp
|
ญี่ปุ่น
|
.or
|
องค์กรไม่แสวงผลกำไร
|
.au
|
ออสเตรเลีย
|
.net
|
องค์กรที่ให้บริการเครือข่าย
|
รายละเอียดเกี่ยวกับ URL
http:// คือ content identifier ส่วนที่แจ้งให้บราวเซอร์ทราบว่าต้องจัดการกับข้อมูลที่พบอย่างไร สำหรับเว็บเพจใน world wide web จะใช้โปรโตคอลมาตรฐาน
WWW.Disney.com คือ host name ส่วนที่ระบุชื่อของเว็บไซต์ที่ทำหน้าที่เผยแพร่
เว็บเพจ
Disneyland คือ ส่วนระบุตำแหน่ง ระบุที่เก็บข้อมูลเว็บในเครื่อง
index.HTML คือ ชื่อไฟล์ข้อมูล ส่วนสุดท้ายของUPL เป็นชื่อไฟล์ข้อมูล
โปรแกรมที่ใช้สร้างเว็บเพจ
ขึ้นอยู่กับรูปแบบของการสร้างเว็บเพจ ดั้งนี้
โปรแกรมที่ใช้เขียนโค้ตเว็บเพจด้วยภาษา html
การเขียนภาษา html เพื่อสร้างเว็บเพจ เพื่อให้เราสามารถเข้าใจโครงสร้างของภาษาและคำสั่ง จะนำไปสู่การเป็นนักพัฒนาเว็บต่อไป
โปรแกรมที่ใช้สร้างเว็บเพจและจัดองค์ประกอบบนหน้าเว็บ
คือ Macro media Dream weaver, Microsoft Front Page และ Net Objects Fusion เป็นต้น เราจัดวางภาพ หรือข้ความแบบไหน โปรแกรมจะทำการเขียนโค้ด html ให้อัตโนมัติ
หลักการออกแบบเว็บไซต์
กำหนดขนาดของเว็บเพจ
1.ขนาดของเว็บไซต์แบบ 800x600 pixels ซึ่งเป็นขนาดมาตรฐานที่ใช้กับหน้าจอคอมพิวเตอร์ได้ทุกขนาด
2.ขนาดของเว็บไซต์แบบ1024x768pixels การออกแบบและสร้างเว็บไซต์
ออกแบบและสร้างเว็บเพ็จ
เป็นขั้นตอนการนำเอาข้อมูลทั้งหมดมาสร้างเป็นเว็บไซด์ด้วยภาษา HTML หรือ เครื่องมือการสร้างเว็บอื่น ๆ หลักสำคัญในการออกแบบและสร้างเว็บไซด์ คือ
1.กำหนดจุดประสงค์ของเว็บไซด์ โดยวางเป้าหมายของผู้เข้าชมว่าจะเป็นกลุ่มใด เช่น เว็บไซด์ด้านการท่องเที่ยว เว็บไซด์ด้านเผยแผ่ธรรมะ เว็บไซด์ขายสินค้าโอทอป เว็บไซด์ขายหนังสือเก่า ฯลฯ ซึ่งเว็บไซด์แต่ละประเภทจะมีกลุ่มคนที่สนใจอยู่กลุ่มหนึ่ง ผู้สร้างเว็บไซด์ควรกำหนดลงไปให้ชัดเจนตั้งแต่แรกว่า ผู้ชมกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นใคร จำนวนประมาณเท่าไร
2.เลือกเว็บเบราว์เซอร์ เป็นการเลือกเว็บเบราว์เซอร์ที่ใช้แสดงผลเว็บไซด์ จะได้กำหนดขนาดกว้าง ยาว และลักษณะการวางองค์ประกอบเว็บให้สวยงาม แสดงผลได้เร็ว
3.วางโครงร่างของเว็บไซด์ กำหนดโครงร่างของเว็บไว้ว่าจะมีทั้งหมดกี่เว็บเพ็จ แต่ละเว็บเพจมีเนื้อหาอะไรบ้าง ควรเขียนเป็นแผนผังเว็บไซด์ออกมาบนกระดาษ
4.ออกแบบหน้าตาของเว็บ เป็นขั้นตอนการลงมือสร้างเว็บเพ็จแต่ละหน้าตามที่ได้ออกแบบไว้ พร้อมกับทดสอบผ่านเว็บเบราว์เซอร์ (แบบ offline
การออกแบบและสร้างเว็บไซต์
ออกแบบและสร้างเว็บเพ็จ เป็นขั้นตอนการนำเอา ข้อมูลทั้งหมดมาสร้างเป็นเว็บไซด์ด้วยภาษา HTML หรือ เครื่องมือการสร้างเว็บอื่น ๆ หลักสำคัญในการออกแบบและสร้างเว็บไซด์ คือ
1. กำหนดจุดประสงค์ของเว็บไซด์ โดยวางเป้าหมายของผู้เข้าชมว่าจะเป็นกลุ่มใด เช่น เว็บไซด์ด้านการท่องเที่ยว เว็บไซด์ด้านเผยแผ่ธรรมะ เว็บไซด์ ขายสินค้าโอทอป เว็บไซด์ขายหนังสือเก่า ฯลฯ ซึ่งเว็บไซด์แต่ละประเภทจะมีกลุ่ม คนที่สนใจอยู่กลุ่มหนึ่ง ผู้สร้างเว็บไซด์ควรกำหนด ลงไปให้ชัดเจนตั้งแต่แรกว่า ผู้ชมกลุ่มเป้าหมาย หลักเป็นใคร จำนวนประมาณเท่าไร
2. เลือกเว็บเบราว์เซอร์ เป็นการเลือกเว็บเบราว์เซอร์ที่ใช้แสดงผลเว็บไซด์ จะได้กำหนดขนาดกว้าง ยาว และลักษณะการวางองค์ประกอบเว็บให้สวยงาม แสดง ผลได้เร็ว
3. วาง โครงร่างของเว็บไซด์ กำหนดโครงร่างของเว็บไว้ ว่าจะมีทั้งหมดกี่เว็บเพ็จ แต่ละเว็บเจพมีเนื้อหา อะไรบ้าง ควรเขียนเป็นแผนผังเว็บไซด์ออกมาบนกระดาษ
4. ออกแบบหน้าตาของเว็บ เป็นขั้นตอนการลงมือสร้างเว็บเพ็จแต่ละหน้าตามที่ได้ออกแบบไว้ พร้อมกับทดสอบผ่านเว็บเบราว์เซอร์ (แบบ
แบบฝึกหัดหลังเรียน
1.ความหมายของเว็บเพจตรงกับข้อใด
ก.เป็นช่อง ทางเข้าเว็บเพจทั้งหมดภายในเว็บไซต์
ข.กลุ่มของหน้าเว็บ หรือเว็บหลายๆหน้ารวมกัน
ค.เอกสารที่ ใช้ในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร
ง.เป็นที่เก็บเว็บเพจเมื่อต้องการเปิดดูเว็บเพจ
2.ประโยชน์ของเว็บเพจคือข้อใด
ก.การแสดงผล ของเว็บเพจ
ข.เอกสารที่ ใช้ในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร
ค.ประชา สัมพันธ์บริษัทและองค์กร
ง.เป็นที่เก็บเว็บเพจ
3. .com เป็นตัวย่อขององค์กรใด
ก.องค์กร รัฐบาล
ข.สถาบันการศึกษา
ค.บริษัท หรือองค์กรพาณิชย์
ง.บริษัทหรือองค์กรทางธุรกิจ
4. .gov เป็นตัวย่อขององค์กรใด
ก.สถาบันการศึกษา
ข.บริษัทหรือองค์กรพาณิชย์
ค.องค์กร รัฐบาล
ง.บริษัทหรือองค์กรทางธุรกิจ
5. บริษัทหรือองค์กรทางธุรกิจใช้ตัวย่อใด
ก. .org
ข. .imfo
ค. .biz
ง. .net
6. องค์กรที่ทำหน้าที่เป็นเกตเวย์ หรือจุดเชื่อมต่อเครือข่าย ใช้ตัวย่อใด
ก..info
ข..biz
ค..net
ง..org
7. Domain Name มีกี่ระดับ
ก. 1 ระดับ
ข. 2 ระดับ
ค. 3ระดับ
ง. 4ระดับ
8.การออกแบบโครงสร้างมีกี่รูปแบบ
ก. 1 รูปแบบ
ข. 2รูปแบบ
ค. 4รูปแบบ
ง. 8รูปแบบ
9.โดเมนเนม 3 ระดับ จะมีรูปแบบ เช่นไร
ก.ส่วนที่ 2 หลังเครื่องหมายจุดใช้ระบุประเภทขององค์กร
ข.คำย่อของประเภท องค์กร ซึ่งคำย่อของประเภทองค์กรที่จะพบบ่อย
ค.ส่วนที่ 2 หลังเครื่องหมายจุดใช้ระบุประเภทขององค์กร และคำย่อส่วนที่ 3 หลังเครื่องหมายจุดใช้ระบุประเทศที่ตั้งขององค์กร
ง.ส่วนที่ 3 หลัง เครื่องหมายจุดใช้ระบุประเทศที่ตั้งขององค์กร
10.ออสเตรเลีย ใช้ตัวย่ออะไร
ก..th
ข..cn
ค..au
ง..jp
เฉลย
1.ค 2.ค 3.ค 4.ค 5.ค 6.ค 7.ค 8.ค 9.ค 10.ค